กลิ่นกายเย้ายวน ชวนหลงใหล เพียงแค่ลิ้มรสอาหารเหล่านี้

อยากมีเสน่ห์ดึงดูดแบบไม่ต้องพึ่งสเปรย์ น้ำหอม หรือโลชั่น กลิ่นกายหอมหวลจากภายในเป็นอะไรที่ลึกลับ สื่อถึงสุขภาพที่ดีและน่าค้นหา บอกลาความกังวลเรื่องกลิ่นตัวไปได้เลย เพียงแค่คุณรู้จักเลือกรับประทานอาหารที่เปรียบเสมือนน้ำหอมจากธรรมชาติ เราจะพาคุณไปลิ้มรสอาหารหลากหลายชนิด พร้อมไขข้อสงสัยว่าทำไมกินแล้วถึงตัวหอม

ทำไมกลิ่นตัวถึงสำคัญ

กลิ่นกายเปรียบเสมือนภาษาที่ส่งผลต่อความประทับใจแรกพบ ยิ่งกลิ่นหอมสะอาดยิ่งสร้างเสริมบุคลิกภาพที่ดี มั่นใจ น่าเข้าใกล้ ในทางกลับกัน กลิ่นตัวแรงไม่พึงประสงค์ก็อาจกลายเป็นอุปสรรคทางสังคมได้เลย

ปัจจัยที่ส่งผลต่อกลิ่นตัว

หลายปัจจัยส่งผลต่อกลิ่นกายของเรา บางคนโชคดีเกิดมามีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตามธรรมชาติ แต่บางคนอาจต้องเผชิญกับกลิ่นแรงไม่พึงประสงค์ สาเหตุหลักๆ มาจาก

  • ฮอร์โมน: ช่วงวัยรุ่นหรือวัยทอง ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงส่งผลต่อต่อมเหงื่อ ทำให้กลิ่นแรงขึ้นได้
กลิ่นกายเย้ายวนเพียงแค่ลิ้มรสอาหารเหล่านี้ (2)

ตัวอย่างอาหารที่ช่วยทำให้ตัวหอม

  1. ผลไม้ตระกูลส้ม กลิ่นหอมสดชื่น สยบกลิ่นไม่พึงประสงค์

เริ่มต้นด้วยราชินีแห่งความหอมสดชื่น ผลไม้ตระกูลส้มอย่างส้ม มะนาว เลมอน เกรปฟรุต อุดมไปด้วยวิตามินซี ที่ไม่เพียงช่วยเรื่องผิวพรรณ ยังมีคุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรีย ลดกลิ่นปาก กลิ่นเหง และยังช่วยย่อยอาหาร สลายของเสีย เพิ่มประสิทธิภาพการขับถ่าย ส่งผลให้ร่างกายสะอาดไร้กลิ่นกังวล

  1. แตงโม แตงกวา น้ำเยอะ ดีท็อกซ์ ช่วยขับของเสีย

ผลไม้เนื้อฉ่ำอย่างแตงโม แตงกวา อุดมไปด้วยน้ำ 90% ช่วยขับปัสสาวะ ล้างสารพิษ และของเสียสะสมในร่างกาย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นต้นเหตุของกลิ่นตัว แถมยังมีปริมาณวิตามินซี วิตามินเอ ที่เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายอีกด้วย

  1. ผักใบเขียว คลอโรฟิลล์ดีท็อกซ์ กลิ่นกายหอมจากภายใน

ผักใบเขียวอย่างคะน้า อุดมปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ คลอโรฟิลล์ ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย ดูดซับสารพิษ ล้างลำไส้ อีกทั้งยังมีวิตามิน ไฟเบอร์ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

  1. โปรตีนจากปลา แบบคนสุขภาพดี

เนื้อปลา ดีกว่า เนื้อสัตว์ชนิดอื่น เพราะย่อยง่าย มีกรดอะมิโนบางชนิดที่ให้กลิ่นกายหอมเฉพาะตัว และยังเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี สร้างกล้ามเนื้อ เสริมสร้างร่างกาย

  1. ขิง ขมิ้น ตะไคร้ สมุนไพรไทย กลิ่นหอมเอกลักษณ์

สมุนไพรไทยอย่างขิง ขมิ้น ตะไคร้ ไม่เพียงแค่ปรุงอาหารให้รสชาติเข้มข้น ยังมีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร ขับลม กระตุ้นการไหลเวียนเลือด เพิ่มความอบอุ่นร่างกาย ส่งผลให้กลิ่นกายมีความดึงดูด ชวนลุ่มหลง

  1. น้ำเปล่า เครื่องดื่มดีท็อกซ์ ช่วยล้างสารพิษ

น้ำเปล่าเป็นพระเอกเบื้องหลังความสดชื่น บริสุทธิ์ ไร้กลิ่น ช่วยขับเหง ขับของเสีย ละลายสารพิษ ยิ่งดื่มน้ำเยอะ ร่างกายสะอาด สดชื่น ยิ่งส่งผลให้กลิ่นกายหอมหวล น่าสัมผัส

  1. ชาเขียว ดีท็อกซ์ ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความสดชื่น

ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปรับสมดุลร่างกาย ดีท็อกซ์ระบบภายใน ลดการสะสมของเสีย ลดกลิ่นเหงื่อ กลิ่นปาก แถมยังกระตุ้นการเผาผลาญ เพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า

  1. โยเกิร์ต ปรับสมดุลลำไส้ ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์

โยเกิร์ต มีโพรไบโอติก ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียไม่ดี

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ทำให้มีกลิ่นตัว

อาหารที่ทำให้มีกลิ่นตัวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆ ดังนี้

  1. กลุ่มอาหารที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว

ตัวอย่างอาหารที่มีกลิ่นฉุนหรือมีสารประกอบกำมะถันสูง

  • กระเทียม
  • หอมหัวใหญ่
  • หน่อไม้ฝรั่ง
  • ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก กะหล่ำดาว บรอกโคลี
  • เครื่องเทศ เช่น พริกไทย กระเทียม พริกแดง หอมแดง
  • อาหารทะเล เช่น กุ้ง ปู หอย ปลาหมึก
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ ไวน์ วิสกี้

2. กลุ่มอาหารที่กระตุ้นต่อมเหงื่อ

อาหารที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว เกิดจากการที่ร่างกายย่อยอาหารเหล่านี้แล้วเกิดสารประกอบกำมะถัน ซึ่งเป็นสารที่มีกลิ่นฉุน เมื่อสารเหล่านี้ถูกขับออกมาทางเหงื่อ ลมหายใจ หรือลมผาย ก็ทำให้เกิดกลิ่นตัวตามมา

ตัวอย่างอาหารที่มีฤทธิ์กระตุ้นต่อมเหงื่อ

  • อาหารรสจัด เช่น พริก อาหารผัด อาหารทอด
  • อาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารทอด อาหารแปรรูป
  • อาหารที่มีคาเฟอีนสูง เช่น กาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง

สรุป

การรับประทานอาหารที่มีกลิ่นหอมหรือมีสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยทำให้ตัวหอมขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ การดูแลเรื่องความสะอาดร่างกายก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ควรอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดทุกวัน ใส่เสื้อผ้าที่สะอาดและแห้ง เพื่อช่วยให้ตัวหอมสดชื่นตลอดวัน

เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญงานเขียน

นามปากกา : จุดสมดุล