กลิ่นกายเย้ายวน ชวนหลงใหล เพียงแค่ลิ้มรสอาหารเหล่านี้
กลิ่นกายเย้ายวน ชวนหลงใหล เพียงแค่ลิ้มรสอาหารเหล่านี้
อยากมีเสน่ห์ดึงดูดแบบไม่ต้องพึ่งสเปรย์ น้ำหอม หรือโลชั่น กลิ่นกายหอมหวลจากภายในเป็นอะไรที่ลึกลับ สื่อถึงสุขภาพที่ดีและน่าค้นหา บอกลาความกังวลเรื่องกลิ่นตัวไปได้เลย เพียงแค่คุณรู้จักเลือกรับประทานอาหารที่เปรียบเสมือนน้ำหอมจากธรรมชาติ เราจะพาคุณไปลิ้มรสอาหารหลากหลายชนิด พร้อมไขข้อสงสัยว่าทำไมกินแล้วถึงตัวหอม
ทำไมกลิ่นตัวถึงสำคัญ
กลิ่นกายเปรียบเสมือนภาษาที่ส่งผลต่อความประทับใจแรกพบ ยิ่งกลิ่นหอมสะอาดยิ่งสร้างเสริมบุคลิกภาพที่ดี มั่นใจ น่าเข้าใกล้ ในทางกลับกัน กลิ่นตัวแรงไม่พึงประสงค์ก็อาจกลายเป็นอุปสรรคทางสังคมได้เลย
ปัจจัยที่ส่งผลต่อกลิ่นตัว
หลายปัจจัยส่งผลต่อกลิ่นกายของเรา บางคนโชคดีเกิดมามีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตามธรรมชาติ แต่บางคนอาจต้องเผชิญกับกลิ่นแรงไม่พึงประสงค์ สาเหตุหลักๆ มาจาก
- ฮอร์โมน: ช่วงวัยรุ่นหรือวัยทอง ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงส่งผลต่อต่อมเหงื่อ ทำให้กลิ่นแรงขึ้นได้
ตัวอย่างอาหารที่ช่วยทำให้ตัวหอม
-
ผลไม้ตระกูลส้ม กลิ่นหอมสดชื่น สยบกลิ่นไม่พึงประสงค์
เริ่มต้นด้วยราชินีแห่งความหอมสดชื่น ผลไม้ตระกูลส้มอย่างส้ม มะนาว เลมอน เกรปฟรุต อุดมไปด้วยวิตามินซี ที่ไม่เพียงช่วยเรื่องผิวพรรณ ยังมีคุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรีย ลดกลิ่นปาก กลิ่นเหง และยังช่วยย่อยอาหาร สลายของเสีย เพิ่มประสิทธิภาพการขับถ่าย ส่งผลให้ร่างกายสะอาดไร้กลิ่นกังวล
-
แตงโม แตงกวา น้ำเยอะ ดีท็อกซ์ ช่วยขับของเสีย
ผลไม้เนื้อฉ่ำอย่างแตงโม แตงกวา อุดมไปด้วยน้ำ 90% ช่วยขับปัสสาวะ ล้างสารพิษ และของเสียสะสมในร่างกาย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นต้นเหตุของกลิ่นตัว แถมยังมีปริมาณวิตามินซี วิตามินเอ ที่เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายอีกด้วย
-
ผักใบเขียว คลอโรฟิลล์ดีท็อกซ์ กลิ่นกายหอมจากภายใน
ผักใบเขียวอย่างคะน้า อุดมปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ คลอโรฟิลล์ ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย ดูดซับสารพิษ ล้างลำไส้ อีกทั้งยังมีวิตามิน ไฟเบอร์ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
-
โปรตีนจากปลา แบบคนสุขภาพดี
เนื้อปลา ดีกว่า เนื้อสัตว์ชนิดอื่น เพราะย่อยง่าย มีกรดอะมิโนบางชนิดที่ให้กลิ่นกายหอมเฉพาะตัว และยังเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี สร้างกล้ามเนื้อ เสริมสร้างร่างกาย
-
ขิง ขมิ้น ตะไคร้ สมุนไพรไทย กลิ่นหอมเอกลักษณ์
สมุนไพรไทยอย่างขิง ขมิ้น ตะไคร้ ไม่เพียงแค่ปรุงอาหารให้รสชาติเข้มข้น ยังมีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร ขับลม กระตุ้นการไหลเวียนเลือด เพิ่มความอบอุ่นร่างกาย ส่งผลให้กลิ่นกายมีความดึงดูด ชวนลุ่มหลง
-
น้ำเปล่า เครื่องดื่มดีท็อกซ์ ช่วยล้างสารพิษ
น้ำเปล่าเป็นพระเอกเบื้องหลังความสดชื่น บริสุทธิ์ ไร้กลิ่น ช่วยขับเหง ขับของเสีย ละลายสารพิษ ยิ่งดื่มน้ำเยอะ ร่างกายสะอาด สดชื่น ยิ่งส่งผลให้กลิ่นกายหอมหวล น่าสัมผัส
-
ชาเขียว ดีท็อกซ์ ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความสดชื่น
ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปรับสมดุลร่างกาย ดีท็อกซ์ระบบภายใน ลดการสะสมของเสีย ลดกลิ่นเหงื่อ กลิ่นปาก แถมยังกระตุ้นการเผาผลาญ เพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
-
โยเกิร์ต ปรับสมดุลลำไส้ ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
โยเกิร์ต มีโพรไบโอติก ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียไม่ดี
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ทำให้มีกลิ่นตัว
อาหารที่ทำให้มีกลิ่นตัวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆ ดังนี้
-
กลุ่มอาหารที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว
ตัวอย่างอาหารที่มีกลิ่นฉุนหรือมีสารประกอบกำมะถันสูง
- กระเทียม
- หอมหัวใหญ่
- หน่อไม้ฝรั่ง
- ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก กะหล่ำดาว บรอกโคลี
- เครื่องเทศ เช่น พริกไทย กระเทียม พริกแดง หอมแดง
- อาหารทะเล เช่น กุ้ง ปู หอย ปลาหมึก
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ ไวน์ วิสกี้
2. กลุ่มอาหารที่กระตุ้นต่อมเหงื่อ
อาหารที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว เกิดจากการที่ร่างกายย่อยอาหารเหล่านี้แล้วเกิดสารประกอบกำมะถัน ซึ่งเป็นสารที่มีกลิ่นฉุน เมื่อสารเหล่านี้ถูกขับออกมาทางเหงื่อ ลมหายใจ หรือลมผาย ก็ทำให้เกิดกลิ่นตัวตามมา
ตัวอย่างอาหารที่มีฤทธิ์กระตุ้นต่อมเหงื่อ
- อาหารรสจัด เช่น พริก อาหารผัด อาหารทอด
- อาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารทอด อาหารแปรรูป
- อาหารที่มีคาเฟอีนสูง เช่น กาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง
สรุป
การรับประทานอาหารที่มีกลิ่นหอมหรือมีสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยทำให้ตัวหอมขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ การดูแลเรื่องความสะอาดร่างกายก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ควรอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดทุกวัน ใส่เสื้อผ้าที่สะอาดและแห้ง เพื่อช่วยให้ตัวหอมสดชื่นตลอดวัน
เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญงานเขียน
นามปากกา : จุดสมดุล