หน้ามืด-บ้านหมุน : หลังก้มตัวหรือก้มหน้า เกิดจากอะไร?

หน้ามืดและบ้านหมุนเป็นอาการที่พบได้บ่อยในบางบุคคลที่มีการก้มตัวหรือก้มหน้าอย่างไม่สะดวก อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุทางการแพทย์ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบหูและระบบสมอง ในบทความนี้เราจะพูดถึงหลายสาเหตุที่อาจ导致อาการหน้ามืดและบ้านหมุน ซึ่งรวมถึงโรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน การอักเสบของหูชั้นใน และโรคเนื้องอกประสาทหู

โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด

โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุดหรือ BPPV (Benign Paroxysmal Positional Vertigo) เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับอาการหน้ามืดและบ้านหมุน โรคนี้เกิดจากความเสื่อมของหูชั้นใน โดยทั่วไปแล้ว ภายในหูชั้นในจะมีอวัยวะควบคุมเกี่ยวกับการทรงตัวและการได้ยิน ในอวัยวะควบคุมเกี่ยวกับการทรงตัวจะมีตะกอนหินปูนที่เคลื่อนตัวไปมา ถ้าตะกอนปูนเคลื่อนตัวไม่เหมาะสม จะส่งผลทำให้เกิดอาการหน้ามืดและบ้านหมุนได้ อาการนี้มักเกิดขึ้นเมื่อคุณเปลี่ยนท่าตัวทันที เช่น จากการนอนตะแคง ตื่นจากท่านั่ง หรือเมื่อคุณก้มหรือก้มตัวอย่างรวดเร็ว

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน

โรคน้ำในหูไม่เท่ากันหรือ Meniere’s disease เป็นภาวะที่เกิดขึ้นในหูภายใน โรคนี้เกิดจากสมดุลของน้ำในหูภายในที่เรียกว่ากระเเสไฟฟ้าหูภายใน (endolymphatic hydrops) ซึ่งเป็นอาการที่ไม่มีทางเคลื่อนที่ของน้ำในหูภายในได้ ส่งผลให้เกิดอาการหน้ามืดและบ้านหมุนรุนแรง นอกจากนี้ยังมีอาการหูอื้ออัด รู้สึกฟุ้งเฟ้อในหู และการสูญเสียการได้ยินบางส่วน

การอักเสบของหูชั้นใน

การอักเสบของหูชั้นในหรือ Labyrinthitis เกิดจากการติดเชื้อที่ชั้นในของหูภายใน โดยทั่วไปแล้ว เชื้อโรคจะเข้าทางคอและหลอดเลือดแดงเพื่อเข้าถึงหูชั้นใน การติดเชื้อนี้จะทำให้เกิดการอักเสบภายในหู ทำให้เกิดอาการหน้ามืด บ้านหมุน และอาจมีอาการหูอื้ออัด ความรุนแรงของอาการสามารถแตกต่างกันไปตามระดับของการติดเชื้อ

โรคเนื้องอกประสาทหู

โรคเนื้องอกประสาทหูหรือ Acoustic Neuroma เกิดขึ้นจากการเกิดเนื้องอกในประสาทหูภายใน ซึ่งเนื้องอกนี้มักเป็นเนื้องอกที่เป็นเนื้องอกที่เจริญเติบโตช้าและเป็นอันตรายน้อย โรคนี้ส่วนใหญ่ไม่มีอาการหน้ามืดและบ้านหมุนในระยะแรก แต่เมื่อเนื้องอกมีการเจริญเติบโตมากขึ้น อาจกดทับที่ประสาทหูที่ส่งผลให้เกิดอาการหน้ามืด บ้านหมุน และอาจมีอาการหูอื้ออัดได้

ในกรณีที่คุณพบว่าคุณมีอาการหน้ามืดและบ้านหมุนอย่างไม่สะดวก ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง แพทย์จะสามารถวินิจฉัยสาเหตุของอาการและแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณได้