วัด
วัด เรียกอีกนามว่า อาวาส หรือ อาราม เป็นสถานที่ทางศาสนาในศาสนาพุทธศาสนาที่พบในประเทศไทย กัมพูชา และลาว มีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติศาสนกิจและการเรียนรู้ของภิกษุ ครอบคลุมการบวงสรวงพุทธศาสนิกชนและกิจกรรมทางศาสนาต่าง ๆ เช่น การเวียนเทียน การสวดมนต์ และการทำสมาธิ
โครงสร้างภายในวัด
แบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก คือ พุทธาวาส และสังฆาวาส ส่วนพุทธาวาสเป็นส่วนที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา มีเจดีย์หรือสถาปัตยกรรมสำคัญ เช่น อุโบสถ วิหาร และสิ่งประดิษฐ์ศาสนา เป็นต้น ส่วนสังฆาวาสเป็นพื้นที่สำหรับพักอาศัยและกิจวัตรของภิกษุ ส่วนฌาปนสถานเป็นส่วนเสริมที่ถูกเพิ่มเข้ามาในวัดในระยะเวลาหนึ่ง ใช้ในการบำรุงรักษาศาสนกิจและให้บริการทางศาสนาในชุมชน เช่น การฌาปนกิจศพ
โครงสร้างและศิลปะภายในวัด
มีความแตกต่างขึ้นอยู่กับยุคและท้องถิ่น แต่โดยทั่วไปแล้วจะประกอบด้วยส่วนพุทธาวาส สังฆาวาส และฌาปนสถาน พุทธาวาสประกอบด้วยองค์ประดิษฐ์สำคัญ เช่น เจดีย์ อุโบสถ และมณฑป ส่วนสังฆาวาสประกอบด้วยบริเวณที่ภิกษุสามเณรจำพรรษา และส่วนฌาปนสถานเป็นพื้นที่เสริมที่ใช้ประโยชน์ตามบุคคลิกและการปฏิบัติศาสนกิจ
วัดเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาและวัฒนธรรมที่มีบทบาทสำคัญในชุมชนที่ต้องการให้การเคารพศาสนาและการแนะนำคุณค่าทางศีลธรรมแก่ผู้ที่เข้ามาพบปะกับวัด โดยทั้งหมดนี้สร้างเป็นเครื่องหมายที่เก่าแก่และอันเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
วัดประจำพระราชวังในประเทศไทย
วัดพระศรีสรรเพชญ์ (วัดประจำพระราชวังโบราณ อยุธยา) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดประจำพระบรมมหาราชวัง) กรุงเทพมหานคร
วัดที่สำคัญบนเกาะช้าง
วัดสลักเพชร
เป็นวัดสำคัญที่ตั้งอยู่บนเกาะช้างใต้ ในจังหวัดตราด ประจำคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย พระวัดนี้มีชื่อเต็มว่า “วัดสลักเพชร” โดยมีประวัติศาสตร์และสถานที่ที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับวัดนี้
ประวัติความเป็นมาของวัดสลักเพชรเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2449 เมื่อชาวบ้านร่วมกันสร้างที่พักสงฆ์ในบริเวณบ้านนา แต่พบว่าพื้นที่นั้นมีลมพัดแรงอันเป็นอุปสรรคในการสร้าง ทำให้หลังคาอาคารเสียหายและมีความขาดแคลนน้ำดื่ม ดังนั้นได้มีการย้ายที่ตั้งมายังกลางหมู่บ้าน โดยคุณเชื่อม พันธ์เพ็ญ บริจาคที่ดินริมทะเลพื้นที่ประมาณ 2 ไร่เศษ ต่อมาในสมัยของอาจารย์พิมพ์ ได้เริ่มสร้างอุโบสถและคุณพื้น สลักเพชรได้รับมอบทรัพย์มาเพื่อสนับสนุนการก่อสร้าง และเมื่อพ.ศ. 2449 ได้เปิดวัดขึ้น และได้รับนามว่า “วัดสลักเพชร” จากคำนามของคุณพื้น สลักเพชร ที่เป็นผู้บริจาคทรัพย์ให้กับวัด
อาคารสำคัญในวัดสลักเพชรประกอบด้วยอุโบสถขนาดกว้าง 9 เมตร ยาว 16 เมตร สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2440 และอุโบสถหลังใหม่ที่มีประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญเพิ่มเติมอื่น ๆ เช่น ศาลาการเปรียญ ศาลาบำเพ็ญกุศล และปูชนียยวัตถุ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ของหลวงพ่อเพชร ที่มีขนาดหน้าตักกว้าง 65 เซนติเมตร สูง 113 เซนติเมตร และมีศิลปะรัตนโกสินทร์ที่สวยงาม
ในปัจจุบัน วัดสลักเพชรยังคงเป็นแหล่งการศึกษาโดยเปิดสอนโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม และภายในวัดยังมีนิทรรศการที่จัดขึ้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ยุทธนาวีเกาะช้างในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2484 ซึ่งได้รวบรวมวัตถุโบราณและภาพฝาผนังที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ 5 มาที่เกาะช้าง
อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมวัตถุของใช้สมัยโบราณ และเสิร์ฟเป็นการจัดนิทรรศการเพื่อให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้รู้จักและเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของเกาะช้างและประเทศไทยที่กว่างานสร้างวัดนี้
วัดคลองพร้าว
วัดคลองพร้าว เป็นวัดที่สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด พื้นที่ที่วัดครอบคลุมมีขนาด 7 ไร่ 3 งาน[1] วัดนี้ได้รับการสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2522 โดยมีพระครูนิเทศก์ธรรมยาน เจ้าคณะอำเภอในสมัยนั้น เป็นผู้นำโครงการ และคณะผู้มีความเสมอภาคศรัทธาที่ร่วมกันทำบุญด้วยการสร้างวัด ได้แก่ นายทวีป บุญลอย นายสวัสดิ์ ประศาสน์ศิลป์ นายประสาร ขันรกุล นายวิเชษฐ์ สุกระสูยานนท์ นายสมบุญ ย่านส้ม นายจำนงค์ สุขคง และนายประจวบ ศรีมงคล ซึ่งตั้งแต่เริ่มแรกถูกก่อขึ้นในนาม “สำนักสงฆ์คลองพร้าว” โดยได้รับการนิมนต์จากพระอาจารย์สมบูรณ์ อินทวณฺโณ และได้รับการพัฒนาต่อมาจนกระทั่งประกาศเป็นวัดในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ณ ปัจจุบัน พระอธิการศักดา ฐิตธมฺโม ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสของวัดตั้งแต่ พ.ศ. 2538 จนถึงปัจจุบัน
สิ่งสร้างภายในวัดประกอบไปด้วยอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ อาทิ อุโบสถ ศาลาสร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2523 ธรรมศาลาประดิษฐานหลวงพ่อบัวเข็ม อุโบสถ ศาลาอเนกประสงค์ กุฏิสงฆ์รวม หอระฆัง และเมรุ เป็นต้น
วัดวัชคามคชทวีป
วัดวัชคามคชทวีป เป็นวัดที่อยู่บนเกาะช้างใต้ ในตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด ภายใต้สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย
เดิมชื่อของวัดนี้คือ “วัดสลักคอก” ได้รับการประกาศตั้งเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ. 2425 และในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2446 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในการเยี่ยมชมเกาะช้างในระหว่างทรงพระชนมายุ 31 พรรษา ในคำบรรยายของพระราชหัตถเลขา พ.ศ. 2427 ได้ถูกบันทึกไว้ว่า “..เวลาเช้า ลงเรือกระเชียง เรือไฟลากไปที่สลักคอก ขึ้นไปตามบ้านพัก ที่วัดตำบลนั้น เจ้านายข้าราชการข้างหน้าข้างในเรี่ยรายเงินถวายพระ ราษฎรพากันขอให้เหยียบที่สร้างพระอุโบสถ ด้วยวัดนั้น ยังหามีพระอุโบสถไม่ จึงได้รับจะสร้างพระอุโบสถให้ ตั้งชื่อว่า วัดวัชคามคชทวีป..”
ชื่อ “วัชคามคชทวีป” เป็นนามที่ได้รับจากพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้รับการตั้งนามเมื่อวัดยังไม่มีอุโบสถ ซึ่งประชาชนได้มอบบังคมทูลพระกรุณาให้สร้างอุโบสถขึ้น จนเป็นที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน